แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - siritidaphon

หน้า: [1] 2 3 ... 24
1
เชื่อว่าหลายๆ ท่านคงเคยประสบปัญหาการนอนกรน หรือคนรอบข้างนอนกรนกันมาบ้างไม่มากก็น้อย หลายๆท่านมองว่าการนอนกรนแค่สร้างปัญหารำคาญให้คนรอบข้างในขณะหลับเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้ว จากการศึกษาวิจัยการนอนกรนอาจจะมีภาวะที่เรียกว่าหยุดหายใจชั่วขณะร่วมด้วยส่งผลให้สมองขาดออกซิเจน และหากว่ามีอาการที่หนักกว่านี้อาจจะส่งผลถึงชีวิตได้

ในวันนี้ทางด้าน Clinic จะขอพาท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับต้นเหตุและความอันตรายของการนอนกรน รวมถึงวิธีการแก้ปัญหาด้วย EF Line นวัตกรรมสุดทันสมัย ที่ครอบคลุมเรื่องการจัดฟันเด็กเล็ก ปรับเปลี่ยนโครงสร้างใบหน้า รวมถึงช่วยแก้ปัญหาอาการนอนกรนของท่านได้ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

การนอนกรนเกิดจากอะไร ?

อาการนอนกรน เกิดขึ้นในขณะหลับเนื่องจากว่ากล้ามเนื้อคอเกิดการผ่อนคลายและหย่อนตัวลง ส่งผลให้ทางเดินหายใจแคบลง เมื่ออากาศผ่านจึงเกิดการสั่นสะเทือนของเนื้อเยื่อคอ เช่น ทอนซิล ลิ้นไก่ เพดานอ่อน เป็นต้น ซึ่งการสั่นดังกล่าวนั่นเองที่ทำให้เกิดเสียงดัง ที่เรียกว่า “กรน”

นอกจากการเกิดภาวะการกรนตามธรรมชาติแล้ว ยังเกิดขึ้นจากอาการป่วยที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจด้วย เช่น ต่อมทอนซิลอักเสบ ผู้ป่วยโรคอ้วน การมีเนื้องอกหรือถุงน้ำของระบบทางเดินหายใจส่วนบน การนอนกรนก็ถือว่าเป็นสัญญาณของโรคเหล่านี้ด้วยเช่นกัน


อุปกรณ์ทันตกรรม EF Line ช่วยให้หายนอนกรน

เชื่อว่าหลายๆ ท่านอาจจะรู้จักกับชุดเครื่องมือทางทันตกรรม EF Line กันมาบ้างแล้ว แต่หลายๆท่านอาจจะทราบเพียงแค่ว่า อุปกรณ์ตัวนี้มีหน้าที่ในการช่วยจัดฟันที่ผิดปกติของเด็กเล็กวัยตั้งแต่ 4 ขวบ เพื่อให้กลับมาเป็นปกติและไม่มีปัญหาตามมาอีก รวมถึงปรับโครงสร้างส่วนกระดูกขากรรไกรให้เข้าที่เพื่อช่วยให้ใบหน้าที่ผิดรูปเข้าทรงตามปกติ แต่รู้หรือไม่ว่า อาการนอนกรน EF Line ก็สามารถช่วยได้ เนื่องจากว่าการนอนกรนส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการที่มีตำแหน่งลิ้นผิดปกติ รวมถึงขากรรไกรที่ไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่ง EF Line สามารถปรับส่วนต่างๆเหล่านี้ให้สมดุล เป็นธรรมชาติมากที่สุดโดยที่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะ EF Line จะค่อยๆปรับส่วนต่างๆทีละนิดไม่ใช่การเร่งรีบในการดัดจึงไม่มีอันตรายหากใช้อุปกรณ์ทางทันตกรรมชนิดนี้ แถมยังส่งผลดีต่อโครงสร้างใบหน้าอีกด้วย

 

วิธีใช้ EF Line ช่วยแก้ไขอาการนอนกรนทำอย่างไร ?

ในช่วงแรกต้องขอบอกว่าอาจจะไม่เคยชินในการใส่อุปกรณ์ทางทันตกรรม EF Line อาจจะมีการเคืองบ้างเล็กน้อย แต่ในขณะที่กำลังหลับให้พยายามใส่ให้ติดปาก โดยใส่ขณะที่นอนหลับนั้นจะใช้เวลาในการใส่อยู่ที่ 10 ชั่วโมง เพื่อปรับการวางลิ้นและขากรรไกรให้เข้าที่ ท่านก็จะเลิกอาการนอนกรนได้ในเวลาไม่นาน

 

เผย 6 วิธีลดอาการนอนกรน ?

1.    ควบคุมน้ำหนัก

ต้องขอบอกเลยว่าความอ้วนถือว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักๆ ของการนอนกรน เนื่องจากช่องทางเดินหายใจบริเวณคอถูกบีบให้เล็กลงด้วยชั้นไขมันสะสม รวมถึงไขมันในส่วนของหน้าอกและท้องก็ถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ร่างกายต้องทำการหายใจหนักขึ้น


2.    ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอจะช่วยให้ช่องเนื้อทางเกินหายใจดึงรั้งและมีความแข็งแรงขึ้น เนื้อเยื่อในลำคอจะไม่หย่อนมากในขณะหลับ


3.    จัดท่านอนให้ดี

พยายามนอนตะแคงงอข้อศอกให้ชิดลำคอ เพื่อเป็นการให้ข้างมือยันคางไว้เพื่อเป็นการปิดปากไปในตัว หรือนอนหนุนหมอนข้างไว้เพื่อไม่ให้เกิดการพลิกตัว ก็จะช่วยให้ท่านหายจากการนอนกรนได้


4.    ยกศีรษะให้สูง

หากว่าการนอนตะแคงไม่สามารถทำได้ให้ลองวิธีการนอนหงาย และใช้หมอนใบเล็กๆสอดไว้ใต้ลำคอด้านบน จะช่วยให้ลิ้นไม่หย่อนลงลำคอ การหายใจจะสะดวกขึ้น สามารถลดอาการนอนกรนได้


5.    ทำที่นอนให้สะอาดอยู่เสมอ

ที่ต้องทำที่นอนให้สะอาดส่วนหนึ่งเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคภูมิแพ้ หรือหอบหืด ซึ่งเกิดจากไรฝุ่น โรคเหล่านี้เป็นต้นเหตุสำคัญของการนอนกรนด้วยเช่นกัน


6.    ทำจมูกให้สะอาดก่อนนอน

ทุกสิ่งทุกอย่างที่ปิดกั้นการหายใจ หรือทำให้หายใจไม่สะดวก คือปัจจัยสำคัญในการนอนกรน ซึ่งในขณะที่กำลังจะนอนให้ทำการทำความสะอาดโพรงจมูกให้สะอาด ก็จะสามารถช่วยไม่ให้นอนกรนได้อีกทางหนึ่ง

 
ดังที่กล่าวมานั้นการนอนกรนถือว่าอันตรายกับชีวิตของท่านเอง และสร้างความรำคาญให้กับคนรอบข้างอีกด้วย หากว่าใช้ทั้ง 6 วิธีที่กล่าวมาแล้วยังไม่ได้ผล แนะนำปรึกษาทันตแพทย์เพื่อใช้อุปกรณ์ EF Line จะสามารถช่วยท่านได้



ระวัง “นอนกรน” ส่งผลกับชีวิต จัดฟันเด็ก EF Line ช่วยได้ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/การจัดฟันเด็ก/

2
การจัดฟันแบบใส ถือว่าเป็นการจัดฟันรูปแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะทันตแพทย์จะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการรักษาทำให้มีผลการรักษาที่แม่นยำ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาในเรื่องของรูปร่างของฟัน ลักษณะการขึ้นของฟันที่เกิดจากความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม หรือแม้กระทั่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่อาจจะส่งผลต่อรูปร่างฟันได้ การจัดฟันแบบใส ถือว่าได้รับความนิยมในหมู่ดารา นักแสดง หรือคนทำงานที่ต้องใช้บุคลิกภาพ ที่ต้องใช้หน้าตา การจัดฟันแบบใส จึงสามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี แต่อย่างไรก็ตาม การจัดฟันแบบใส ก็มีข้อจำกัดด้วยเช่นเดียวกัน เพราะผู้เข้ารับการจัดฟันจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร ถึงแม้ว่าจะสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย แต่ก็ต้องระมัดระวังในการสวมใส่เครื่องมือขณะรับประทานอาหาร ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าว อาจจะส่งผลทำให้เครื่องมือเกิดความเสียหายได้


ดังนั้น พฤติกรรมดังกล่าว ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส จะต้องหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้น มักจะเกิดขึ้นได้บ่อย สำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมการติดการดื่มหรือจิบกาแฟในระหว่างวัน เพราะการที่เราจิบกาแฟบ่อยๆอาจจะทำให้เราลืมถอดเครื่องมือก่อนการดื่มกาแฟได้ นั่นหมายความว่า อาจจะทำให้สีของเครื่องมือเกิดการเปลี่ยนสีได้ ซึ่งต้องบอกก่อนว่า ถ้าหากเครื่องมือการจัดฟันแบบใสของเรา มีสีที่เปลี่ยนแปลงไป ก็อาจจะทำให้ฟันของเราเปลี่ยนสีได้เช่นเดียวเมื่อสวมใส่เครื่องมือ ดังนั้น วิธีการหลีกเลี่ยงการเกิดปัญหาดังกล่าวที่ดีที่สุดก็คือ เราควรถอดเครื่องมือก่อนการรับประทานอาหาร หรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีสี


แต่ถ้าหากว่า เราเผลอลืมสวมใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใส และดื่มกาแฟไปด้วย เราจะต้องทำอย่างไร วันนี้ทางคลินิก Idol Smile เราจะมาหาคำตอบกันว่า เราจะต้องรับมืออย่างไร เพื่อไม่ให้เครื่องมือของเราเกิดความเสียหาย อย่างแรกเลย ถ้าหากว่าเราเกิดเผลอลืมถอดเครื่องมือการจัดฟัน ขณะรับประทานอาหารหรือการดื่มเครื่องดื่มที่มีสี ขั้นตอนแรกเราจะต้องนำเครื่องมือการจัดฟันแบบใสของเราไปแช่น้ำในอุณหภูมิปกติ เพื่อทำความสะอาด อาจจะใช้ผ้าถูๆ ให้คราบกาแฟหรือคราบอาหารที่ติดอยู่บนเครื่องมือออกให้หมดก่อน แต่หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อยหรือน้ำอุ่น เพราะจะทำให้เครื่องมือการจัดฟันของเราเกิดการบิดเบี้ยวได้


หรือถ้าเกิดคราบฝังแน่นและล้างไม่ออก ควรที่จะนำเครื่องมือการจัดฟันไปล้างทำความสะอาดด้วยสบู่ โดยไม่ต้องใช้แปรงสีฟันถู เพราะจจะทำให้เครื่องมือการจัดฟันเป็นรอยได้ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ให้ใช้ผ้าสะอาดถูเบาๆ เพียงเท่านี้คราบสกปรกก็จะสามารถหลุดออกจากเครื่องมือการจัดฟันของเราได้ ดังนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส จึงควรระมัดระวังในเรื่องของการรับประทานอาหาร ต้องเข้าใจว่า การจัดฟันแบบใส ถึงแม้จะมีข้อดีก็คือ ทำให้เราได้รับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายและเต็มที่ แต่ก็มีข้อเสียคือเราจะต้องคอยถอดเข้าออก ก่อนการรับประทานอาหาร แต่ในการดื่มน้ำเปล่า ผู้เข้ารับการจัดฟันไม่จำเป็นต้องถอดเครื่องมือการจัดฟันแบบใสออก เพราะไม่มีผลกระทบใดต่อเครื่องมือ

 

ทั้งนี้ หากใครสนใจเข้ารับการจัดฟันแบบใส สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำได้ที่คลินิกเพราะทางเรามีทีมทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านทันตกรรมทุกรูปแบบ รวมไปถึงการรักษาด้วยการจัดฟันแบบใส ทำให้เราเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านการจัดฟันมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้ ทางคลินิกของเรา ยังได้รับการรับรองสูงสุดจากทาง Invisalign ทำให้คลินิกของเรามีคามน่าเชื่อถือ และทำให้ผู้เข้ารับบริการมั่นใจได้ว่า ท่านจะมีฟันที่รียงตัวกันอย่างสวยงามเป็นธรรมชาติได้อย่างแน่นอน

เผลอลืมถอดเครื่องมือการจัดฟันใสออก ขณะจิบกาแฟ ต้องทำอย่างไร อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/

3
ง่วงนอนตอนบ่ายเป็นปัญหาที่พบได้บ่อย โดยเฉพาะในวัยทำงานที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน การรับประทานอาหารช่วยแก้ง่วงตอนบ่ายสามารถช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกายและช่วยให้รู้สึกตื่นตัวขึ้นได้

อาหารช่วยแก้ง่วงตอนบ่าย ได้แก่

    อาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ ถั่ว ธัญพืช อาหารประเภทนี้ย่อยง่ายและใช้เวลานาน ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ซึ่งจะช่วยลดความอยากอาหารและลดอาการง่วงนอนได้
    อาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต อาหารประเภทนี้ย่อยยากและใช้เวลานาน ทำให้รู้สึกอิ่มนาน ซึ่งจะช่วยลดความอยากอาหารและลดอาการง่วงนอนได้
    อาหารที่มีวิตามินบี 12 เช่น เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม โยเกิร์ต อาหารประเภทนี้มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยป้องกันอาการง่วงนอนได้
    อาหารที่มีคาเฟอีน เช่น กาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง อาหารประเภทนี้ช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมอง ทำให้รู้สึกตื่นตัวขึ้น แต่ควรจำกัดปริมาณการบริโภคในแต่ละวันไม่เกิน 400 มิลลิกรัม
    อาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผักใบเขียว อาหารประเภทนี้ช่วยปกป้องเซลล์สมองจากการถูกทำลาย ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ตัวอย่างอาหารช่วยแก้ง่วงตอนบ่ายที่ควรทาน ได้แก่

    ข้าวกล้องผัดไข่
    ขนมปังโฮลวีตทาเนยถั่ว
    โยเกิร์ตพร้อมผลไม้สด
    ชาเขียว
    น้ำผลไม้ปั่นจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่

นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และโซเดียมสูง เพราะอาจส่งผลให้รู้สึกง่วงนอนมากขึ้นได้


คอกาแฟมีเฮ! เลือกดื่มถูกวิธี ก็ดีต่อสุขภาพได้

คอกาแฟมีเฮ! เพราะถึงแม้กาแฟจะมีคาเฟอีนที่อาจทำให้ใครหลายๆ คน นอนไม่หลับ ใจสั่น มือสั่น หรือมีผลกระทบต่อผู้มีความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ และโรคประจำตัวอีกหลายๆ โรค แต่ถึงกระนั้นเราก็เข้าใจดีว่า สำหรับคนที่ติดกาแฟ การจะเลิกกินเด็ดขาดมันเป็นอะไรที่ลำบากมากๆ


ดังนั้น จะมาแนะนำวิธีดื่มกาแฟ ไม่ให้เสียสุขภาพกันค่ะ รับรองอร่อย หอมกรุ่นเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือสุขภาพดีขึ้นด้วย

วิธีดื่มกาแฟให้ดีต่อสุขภาพ

1. เลือกเมล็ดกาแฟที่ดี มีคุณภาพ จะมีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าชาเขียวถึง 4 เท่า โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์โรบัสต้า จะมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า กาแฟพันธุ์อาราบิก้าถึง 2 เท่า

2. เลี่ยงกาแฟที่ใช้หม้อต้มแบบสไตล์สแกนดิเนเวีย เพราะจะมีสารไดเทอร์พีนสูง เพิ่มระดับคอเลสเทอรอลในเลือด ควรเลือกกาแฟสำเร็จรูปที่ละลายน้ำ หรือชนิดกรองหยด และเอสเพรสโซ ซึ่งจะมีผลน้อยกว่า

3. เลือกดื่มกาแฟดีแคฟ หรือกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีน และหากเป็นไปได้ ควรเลือกชนิดที่ใช้ กระบวนการสกัดธรรมชาติ (Swiss Water Process)

4. เติมสิ่งนอกเหนือจากกาแฟกับน้ำร้อนให้น้อยที่สุด หรือไม่ใส่เลยได้ยิ่งดี เช่น ครีม นม น้ำตาล น้ำเชื่อม วิปครีม เพราะสิ่งที่เติมลงไปเท่ากับเพิ่มพลังงานให้กับกาแฟถ้วยน้ำด้วย

5. ไม่ควรดื่มเกินวันละ 1-2 แก้ว หากดื่มมากกว่านั้น ปริมาณคาเฟอีนที่ร่างกายได้รับ จะส่งผลร้ายต่อระบบหัวใจ ความดัน และหลอดเลือด

6. ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น เพราะกาแฟมีสารขับปัสสาวะ ทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำมากขึ้น

7. อย่าดื่มกาแฟแทนอาหารเช้าทั้งมื้อ เพราะอย่างไรอาหารเช้าควรเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางสารอาหารครบ 5 หมู่ และให้พลังงานที่เพียงพอ

8. อย่าดื่มกาแฟตอนเย็น หรือก่อนเข้านอน 6 ชั่วโมง เพราะหากทำให้ตาค้าง นอนไม่หลับ และอาจเป็นปัญหาระยะยาวในภายหลัง


ประโยชน์ของกาแฟ หากดื่มอย่างถูกวิธี

จะช่วยลดความเสี่ยงของอาการ และโรคต่อไปนี้

- เบาหวาน

- นิ่วในถุงน้ำดี

- มะเร็งลำไส้ใหญ่

- พาร์กินสัน

- อันตรายจากตับ ในผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคตับ

- อาหารหอบ จากผู้ป่วยหอบหืด

- เพิ่มความจำ

- เพิ่มความทน และอึดของร่างกาย

- แก้ง่วง โดยแนะนำให้ดื่มทีละน้อยๆ กระจายไปในแต่ละช่วงเวลาของวันแทน


อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่ดื่มกาแฟได้ รวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัวค่อนข้างรุนแรง เช่น หลอดเลือดหัวใจหรือสมองตีบ/พอง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคกระเพาะอาหารอักเสบ กรดไหลย้อน หรือโรคอื่นๆ และอยู่ในระหว่างการรักษากับคุณหมอ แนะนำให้ปรึกษาคุณหมอถึงการดื่มกาแฟ ว่าร่างกายสามารถรับได้มากน้อยแค่ไหน

 
ไม่ต้องงีบอีกต่อไป! อาหารช่วยแก้ง่วงตอนบ่าย มีอะไรบ้างที่ควรทาน อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

4
กระชาย หนึ่งในสมุนไพรยอดฮิตที่หลายๆคนสนใจเพื่อสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายเเข็งเเรง ห่างไกลจากเชื้อไวรัส โดยมีผลวิจัยในหลอดทดลองออกมาเเล้วว่า กระชายขาว มีสาร พิโนสโตบิน เเละ แพนดูราทินเอ ที่สามารถทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ได้

นอกจากนี้กระชายขาวยังมีสรรพคุณอีกมากมายที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทั้งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันต้านอาการหวัด เเก้วิงเวียน ลดไขมันในเลือด มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงหัวใจ มีฤทธิ์ในการต่อต้านเจริญเติบโตของแบคทีเรียในสำไส้ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของโรคกระเพาะอาหารเเละประโยชน์อื่นๆ

หลายๆคนที่เริ่มสนใจทานกระชายขาว เเต่รู้สึกว่าทานยาก เพราะเป็นสมุนไพร ต้องมีรสชาติที่ไม่ถูกใจหลายๆคนเเน่นอน พี่หมีบิ๊กกี้เลยอยากมาเเชร์ วิธีทำน้ำกระชายขาว 5 สูตร ให้ให้ง่ายขึ้น ทั้งอร่อยเเละได้ประโยชน์ เเถมทำง่ายด้วย ไปดูกันเลยว่าจะมีสูตรไหนบ้าง

1. น้ำกระชาย มะนาวน้ำผึ้งโซดา

วัตถุดิบ

    กระชาย 3 – 4 แท่ง
    มะขาว 1 -2 ซีก
    น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
    เกลือ ¼ ช้อนชา
    น้ำเปล่า 500 มล.
    น้ำเปล่า 1 ขวด


วิธีทำน้ำกระชาย มะนาวน้ำผึ้งโซดา

    นำกระชายมาล้างให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก
    ใส่น้ำเปล่าเเละปั่นให้ละเอียด
    ตักฟองออก เพื่อไม่ให้น้ำกระชายมีรสชม
    กรองน้ำกระชายโดเทผ่านกระชอน
    ใส่มะนาว น้ำผึ้ง โซดาลงไป


2. น้ำกระชาย สำหรับคนไม่ทานหวาน

วัตถุดิบ

    กระชาย
    โซดา
    มะนาว ครึ่งลูก
    เกลือ 1 หยิบมือ

วิธีทำน้ำกระชาย สำหัรบคนไม่ทานหวาน

    นำกระชายมาล้างให้สะอาด เเละหั่นเป็นชิ้นเล็ก
    ใส่น้ำให้พอดีกับกระชาย เเละปั่นในละเอียด
    ใช้ที่กรองเเบบละเอียด กรองน้ำกระชาย นำช้อนกดๆ ให้น้ำออกมา
    ใส่มะนาว เกลือ โซดาลงไป


3. น้ำกระชาย ยูซุ ฮันนี่ เลมอน

วัตถุดิบ

    กระชายสด 30 กรัม
    น้ำผึ้ง 30 กรัม
    มะนาว 2 ลูก
    น้ำต้มสุก 100 มล.
    โซดา 50 กรัม

วิธีทำน้ำกระชาย ยูซุ ฮันนี่ เลมอน

    ล้างกระชายให้สะอาด เเละนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ
    ปั่นกระชายกับน้ำต้มสุก
    กรองกระชาย คั้นเอาเเต่น้ำออกมา
    ใส่มะนาว น้ำผึ้ง ซอสส้มยูซุลงไป ใส่ลงในขวดเชค เขย่าให้เข้ากัน
    เทลงเเล้ว เเละเติมน้ำเเข็ง โซดา


4. น้ำกระชาย ใบเตย

วัตถุดิบ

    กระชายขาว 500 กรัม
    น้ำปะมาณ 2 ลิตร
    ใบเตย  7 – 8 ใบ
    น้ำตาลทรายเเดง
    เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำน้ำกระชาย ใบเตย

    ล้างกระชายขาว โดนล้างผ่านน้ำ เเล้วนำมาเเช่ในน้ำที่ผสมเกลือเเละน้ำส้มสายชูไว้ 10 นาที
    นำกระชายมาล้างซ้ำให้สะอาด เเละหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ให้พร้อมปั่น ปลอกเปลือกหัวกระชาย เเละหั่นเป็นเเว่นๆ
    นำลงไปปั่น เติมน้ำให้ท่วมกระชาย ประมาณ 1 ถ้วยตวง ปั่นให้ละเอียด
    กรองน้ำกระชาย 2 -3 ครั้งให้เหลือกากใยน้อยที่สุด ตักฟองออก เเละพักไว้
    เตรียมน้ำใส่หม้อ ใสน้ำตาลทรายเเดง เเละเกลือป่น คนให้ละลาย ใส่ใบเตยลงไป รอให้เดือด ใส่กระชายที่ปั่นไว้ลงไป หรี่ไฟอ่อน เเละต้มไว้ประมาณ 30 นาที นำมากรองอีกครั้ง เเละสามารถดื่มทานได้เลย


5. น้ำกระชาย ผสมสมุนไพร ประโยชน์ x2

วัตถุดิบ

    กระชายสด ประมาณ 200 กรัม
    ขิงสด ประมาณ 50 กรัม
    น้ำตาลทรายเเดง 1 ถุง
    น้ำเปล่า 1.2 ลิตร
    หูเสือ 10 ใบ
    มะนาว
    น้ำผึ้ง
    เกลือ
    โซดา

วิธีทำน้ำกระชาย ผสมสมุนไพร

    นำกระชาย ขิง เเละใบหูเสือมาล้างให้สะอาด
    หั่นกระชายเเละขิงเป็นชิ้นเล็กๆ เเละปั่นรวมกันให้ละเอียด
    ใส่น้ำ 1 ลิตรลงหม้อ ต้มให้เดือด เเละใส่กระชายกับขิงที่ปั่นละเอียดเเล้วลงไป ต้มไว้ประมาณ 15 นาที
    เติมน้ำตาลทรายแดง คนให้เข้ากัน จนน้ำตาลละบาย
    นำใบหูเสือที่ล้างเตรียมไว้มาหั่นให้หลาย เเละนำไปปั่นในน้ำสะอาด
    ปรุงส่วนผสมน้ำกระชาย โดยใส่น้ำผึ้ง มะนาว เกลือ ลงไปในน้ำกระชาย
    ใส่น้ำเเข็ง โซดา จากน้ำเติมน้ำคั้นใบหูเสือลงไป คนทุกอย่างให้เข้ากัน


ข้อควรระวังในการทาน น้ำกระชาย

    ไม่ควรทานติดต่อกันหลายวัน เพราะกระชายมีฤทธิ์ให้ความร้อนกับร่างกาย อาจส่งผลให้มีอาการร้อนในหรือแผลในปาก
    หากทานมากเกินไปอาจจะมีอาการใจสั่นเเละเหงือกร่นได้

สูตรน้ำกระชายขาวมีให้เลือกหลากหลายสูตรมา ทุกคนสามารถเลือกนำไปทำได้ความชอบได้เลยค่ะ นอกจากจะทานสมุนไพรอย่างน้ำกระชายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันเเล้ว อย่าลืมว่าต้องทานเเต่พอดี เเละทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นออกกำลงกายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันควบคู่กันไปนะคะ




กระชายพลัส: น้ำกระชาย แจก 5 สูตร กินยังไงให้อร่อย เเถมได้ภูมิคุ้มกันต้านโควิด! อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://mmed.com/

5
โรคเชื้อราแคนดิดา พบได้ในบริเวณซอกผิวหนังที่มีเหงื่ออับชื้น ในช่องปาก และช่องคลอด

โรคนี้พบได้ในคนทุกวัย พบมากในเด็กอ่อน คนอ้วน ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ เบาหวาน เอดส์ มะเร็ง ผู้ที่ใช้ยาปฏิชีวนะหรือสเตียรอยด์นาน ๆ

สาเหตุ

เกิดจากเชื้อแคนดิดาอัลบิแคนส์ (Candida albicans) ซึ่งมีอยู่ประจำถิ่นหรือเป็นปกติวิสัย (normal flora) ในร่างกาย เช่น ช่องปาก ทางเดินอาหาร ทางเดินปัสสาวะ ช่องคลอด ผิวหนัง เมื่อร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น กินยาสเตียรอยด์ หรือยารักษามะเร็ง เป็นเบาหวาน เอดส์) หรือมีการเปลี่ยนแปลงสภาพความเป็นกรดด่าง (เช่น การกินยาปฏิชีวนะ การตั้งครรภ์) ก็จะทำให้เชื้อราชนิดนี้เจริญจนเกิดเป็นโรคขึ้นได้

อาการ

ช่องปาก พบเป็นฝ้าขาวที่ลิ้น หรือตามเยื่อเมือกในช่องปาก (ดู "โรคปากนกกระจอก" เพิ่มเติม)
   
ช่องคลอด มีอาการตกขาว คัน (ดู "ช่องคลอดอักเสบ" เพิ่มเติม)

     ผิวหนัง พบมากบริเวณซอกผิวหนังที่มีเหงื่ออับชื้น เช่น ซอกรักแร้ ขาหนีบ ใต้ราวนม สะดือ ซอกสะโพก ง่ามนิ้ว เป็นต้น ลักษณะเป็นรอยแดงแบบหนังถลอก มีขอบเขตชัดเจน รอบ ๆ จะมีผื่นแดงเล็ก ๆ กระจายตัวอยู่ อาจมีอาการคันร่วมด้วย

โรคเชื้อราแคนดิดาที่พบตามซอกผิวหนังนี้มีชื่อเรียกว่า "Intertriginous candidosis"

เล็บ โรคเชื้อราแคนดิดาที่เล็บ (candida paronychia หรือ onychomycosis) พบในผู้ที่ต้องใช้มือแช่น้ำหรือเปียกน้ำอยู่เสมอ หรือในผู้ป่วยเบาหวาน แรกเริ่มจะมีอาการบวมแดงที่ขอบเล็บ กดเจ็บ พบได้มากกว่า 1 นิ้วพร้อมกัน บางครั้งกดดูจะมีหนองออกจากใต้เล็บ เนื่องจากมีการติดเชื้อจากแบคทีเรียแทรกซ้อน เมื่อปล่อยให้เป็นเรื้อรังเล็บส่วนปลายจะแยกจากเนื้อเยื่อใต้เล็บ (เรียกว่า onycholysis) และบริเวณใต้เล็บจะเห็นเป็นสีขาวหรือเหลือง ต่อมาเล็บจะเสียและเปลี่ยนรูปร่าง มีร่องขวางลักษณะขรุขระที่ตัวเล็บ แต่เล็บไม่ผุหรือกร่อนแบบโรคกลากที่เล็บ

ภาวะแทรกซ้อน

ส่วนใหญ่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

ผู้ป่วยเอดส์และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ (เช่น ผู้ป่วยมะเร็งหรือได้เคมีบำบัด) เชื้อราอาจลุกลามจากช่องปากลงไปที่หลอดอาหารและกระเพาะอาหาร รวมทั้งอาจแพร่กระจาย ทำให้เกิดการอักเสบของอวัยวะอื่น ๆ ทั่วร่างกาย เช่น หลอดอาหารอักเสบ กระเพราะอาหารอักเสบ ปอดอักเสบ เยื่อบุหัวใจอักเสบ เยื่อบุช่องท้องอักเสบ ตับอักเสบ ม้ามอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ จอตาอักเสบ เป็นต้น


การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากอาการและสิ่งตรวจพบ หากไม่แน่ใจหรือรักษาแล้วไม่ได้ผล แพทย์จะทำการส่งต่อเพื่อตรวจเพิ่มเติม โดยการขูดเอาผิวหนังหรือเล็บส่วนนั้นใส่น้ำยาโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ชนิด 10% แล้วนำไปส่องตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์


การรักษาโดยแพทย์

แพทย์จะให้การดูแลรักษา ดังนี้

1. ถ้าเป็นที่ซอกผิวหนัง หรือขอบเล็บ ทาด้วยครีมรักษาโรคเชื้อรา (เช่น โคลไตรมาโซล คีโทโคนาโซล) วันละ 2 ครั้ง นาน 2 สัปดาห์ ควรรักษาบริเวณนั้นให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ

2. ถ้าเล็บแยก ควรตัดเล็บส่วนนั้นออก แล้วใช้ยาทาตรงเล็บและเนื้อเยื่อใต้เล็บ

3. ถ้าไม่ได้ผล ให้กินยาฆ่าเชื้อรา (เช่น ไอทราโคนาโซล, ฟลูโคนาโซล) นาน 2-6 สัปดาห์

4. ในรายที่เป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง แพทย์จะตรวจหาสาเหตุ อาจมีภาวะผิดปกติของร่างกายอื่น ๆ (เช่น เอดส์ เบาหวาน)


การดูแลตนเอง

หากสงสัย เช่น มีผื่นรอยแดงแบบหนังถลอกบริเวณซอกผิวหนังที่มีเหงื่ออับชื้น (เช่น ซอกรักแร้ ขาหนีบ ใต้ราวนม สะดือ ซอกสะโพก ง่ามนิ้ว เป็นต้น หรือมีอาการบวมแดงที่ขอบเล็บและกดเจ็บ หรือมีอาการตกขาวและคัน ควรปรึกษาแพทย์

เมื่อตรวจพบว่าเป็นโรคเชื้อราแคนดิดา ควรดูแลตนเอง ดังนี้

    รักษา ใช้ยารักษาเชื้อรา และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์
    ติดตามรักษากับแพทย์ตามนัด


ควรกลับไปพบแพทย์ก่อนนัด ถ้ามีลักษณะข้อใดข้อหนึ่ง ดังต่อไปนี้

    ดูแลรักษาแล้วอาการไม่ทุเลาใน 1 สัปดาห์
    ขาดยา ยาหาย หรือกินยาไม่ได้
    ในรายที่แพทย์ให้ยากลับไปกินต่อที่บ้าน กินยาแล้วสงสัยเกิดผลข้างเคียงจากยา เช่น มีลมพิษ ผื่นคัน ตุ่มพุพอง ตาบวม ปากบวม ปวดท้อง ท้องเดิน คลื่นไส้ อาเจียน จุดแดงจ้ำเขียว หรือมีอาการผิดปกติอื่น ๆ

การป้องกัน

1. พยายามทำความสะอาดซอกผิวหนัง อย่าให้มีเหงื่ออับชื้น และหลับอาบน้ำควรซับบริเวณซอกผิวหนังให้แห้ง และใช้แป้งโรย

2. อย่ากินยาปฏิชีวนะติดต่อกันนาน ๆ

3. ถ้าเป็นเบาหวาน ควรควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ

ข้อแนะนำ

1. โรคเชื้อราแคนดิดาอาจพบในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยเอดส์ เบาหวาน หรือกินยารักษามะเร็งเป็นประจำ เป็นต้น ถ้าพบผู้ที่เป็นโรคเชื้อราแคนดิดาเรื้อรัง ควรค้นหาสาเหตุและแก้ไข

2. หลีกเลี่ยงการซื้อยาครีมสเตียรอยด์ (แก้แพ้แก้คัน) หรือยาอื่นที่ไม่ใช่ยารักษาเชื้อราที่แพทย์หรือเภสัชกรแนะนำมาใช้เอง เนื่องเพราะครีมสเตียรอยด์อาจทำให้โรคลุกลามได้ ส่วนยาน้ำที่ทาแล้วที่รู้สึกแสบ ๆ อาจทำให้ผิวหนังไหม้และอักเสบได้

3.หากสงสัยโรคเชื้อราแคนดิดาที่เล็บ (ขอบเล็บแดง กดเจ็บ เล็บส่วนปลายแยกจากเนื้อเยื่อใต้เล็บ) ลองให้ยารักษาโรคเชื้อราแล้วไม่ได้ผล ควรสงสัยว่าอาจเป็นโรคโซริอาซิส (ดู "โซริอาซิส/โรคสะเก็ดเงิน/โรคเกล็ดเงิน" เพิ่มเติม)



ตรวจโรค: โรคเชื้อราแคนดิดา (Candidiasis/Moniliasis) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com/symptom-checker

6
ลมพิษ เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่ง เมื่อร่างกายมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่แพ้ จะสร้างสารแพ้ที่เรียกว่า ฮิสตามีน (histamine) ออกมาจากเซลล์ในชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้หลอดเลือดฝอยขยายตัว มีพลาสมา (น้ำเลือด) ซึมออกมาในผิวหนัง ทำให้เกิดเป็นผื่นนูนแดง

มักมีสาเหตุจากการแพ้อาหาร* (เช่น อาหารทะเล กุ้ง ปลา ไข่ เนื้อสัตว์ ถั่ว มะเขือเทศ ซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว เป็นต้น) สารที่ผสมในอาหาร (เช่น ผงชูรส สารกันบูด สีผสมอาหาร) เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ยา (เช่น แอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ อีนาลาพริล เพนิซิลลิน ซัลฟา เป็นต้น) เซรุ่ม วัคซีน พิษแมลงสัตว์กัดต่อย (เช่น ผึ้ง ต่อ มด ยุง เป็นต้น) ฝุ่น ละอองเกสร ขนสัตว์ นุ่น (ที่นอน หมอน) ไหม หรือสารเคมี (เช่น เครื่องสำอาง สเปรย์ ยาฆ่าแมลง เป็นต้น)

บางรายที่เป็นโรคติดเชื้อ เช่น ทอนซิลอักเสบ หูอักเสบ ท้องเดิน ไซนัสอักเสบ ไตอักเสบ โรคเชื้อรา โรคพยาธิ เป็นต้น ก็อาจมีอาการของลมพิษเกิดขึ้นได้

แต่บางรายก็อาจตรวจไม่พบสาเหตุชัดเจน

ในรายที่เป็นลมพิษเรื้อรัง (เป็นติดต่อกันนานเกิน 2 เดือน) ส่วนมากจะไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด ส่วนน้อยที่อาจพบว่ามีสาเหตุ ซึ่งนอกจากเกิดจากสาเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังกล่าว (โดยเฉพาะแอสไพริน ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์) แล้ว ยังอาจมีสาเหตุจากการแพ้ความร้อน ความเย็น (น้ำเย็น น้ำแข็ง อากาศเย็น ห้องปรับอากาศ) แสงแดด เหงื่อ (เช่น หลังจากออกกำลังกาย) น้ำ แรงดัน แรงกด หรือการขีดข่วนที่เกิดกับผิวหนัง การยกน้ำหนัก โรคติดเชื้อเรื้อรัง (เช่น ฟันผุ โรคพยาธิลำไส้ ตัวจี๊ด หูน้ำหนวก)

บางรายอาจเกิดร่วมกับโรคอื่น ๆ เช่น เอสแอลอี มะเร็ง เป็นต้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้เป็นส่วนน้อย

นอกจากนี้ ความเครียด ความวิตกกังวล และอารมณ์ของผู้ป่วย ก็อาจเป็นสาเหตุของลมพิษเรื้อรังได้ รวมทั้งทำให้อาการลมพิษกำเริบในรายที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ

*อาการแพ้ที่เกิดจากอาหาร เรียกว่า แพ้อาหาร (food allergy) พบได้ในคนทุกวัย แต่พบมากในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ (เช่น หวัดภูมิแพ้ หืด ลมพิษ ผื่นคัน) หรือมีพ่อแม่เป็นโรคแพ้อาหาร

สาเหตุ เกิดจากการแพ้สารโปรตีนในอาหาร ส่วนใหญ่ได้แก่ นมวัว ไข่ ปลา กุ้ง หอย ปู ข้าวสาลี ถั่วลิสง ถั่วเหลือง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดอัลมอนด์

อาการ อาการแพ้อาหารอาจเริ่มตั้งแต่วัยทารก โดยหลังกินอาหารที่แพ้จะมีอาการลมพิษ ผื่นคัน หรือผิวหนังบวมคัน อาจมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดินร่วมด้วย บางรายอาจมีอาการคัดจมูก หอบหืด เป็นลม ถ้าเป็นรุนแรงอาจเกิดภาวะช็อกจากการแพ้ (anaphylactic shock)

ทารกที่เป็นโรคนี้ อาการลมพิษผื่นคันจะลดลงเมื่ออายุประมาณ 1 ปี และมักจะหายดีเมื่ออายุประมาณ 10 ปี แต่อาจมีอาการของหวัดภูมิแพ้หรือโรคหืดมากขึ้น

ในผู้ใหญ่ที่แพ้อาหาร มักมีอาการลมพิษ ผื่นคัน บวมคันตามหนังตา รอบปาก บางรายอาจเป็นหวัดภูมิแพ้หรือโรคหืด ในรายที่เป็นรุนแรงแม้กินอาหารที่แพ้ (เช่น กุ้ง หอย ปู ถั่วลิสง) แต่เพียงเล็กน้อยหรือเจือปนอยู่ในอาหารอื่นโดยบังเอิญ ก็อาจมีอาการแพ้รุนแรง เช่น ลมพิษยักษ์ (angioedema) ซึ่งอาจมีอาการบวมของกล่องเสียง (เกิดอาการหายใจลำบาก ตัวเขียว) หรือถึงขั้นช็อกจากการแพ้ เป็นอันตรายได้

การรักษา ให้กินยาแก้แพ้ ถ้าเป็นรุนแรงอาจต้องฉีดยาแก้แพ้หรืออะดรีนาลิน ทางที่ดีผู้ป่วยควรพกยาแก้แพ้และยาฉีดอะดรีนาลินติดตัวไว้ใช้ได้ทันท่วงทีเมื่อเกิดอาการแพ้อาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกินอาหารนอกบ้าน

การป้องกัน หลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ ถ้าแพ้รุนแรงควรหลีกเลี่ยงการกินอาหารตามร้านอาหารหรืองานเลี้ยง เนื่องเพราะอาจมีอาหารที่แพ้เจือปนโดยบังเอิญ

ในทารกที่มีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้หรือมีพ่อแม่เป็นโรคแพ้อาหาร ควรกินนมแม่ตั้งแต่แรกเกิด นมวัวควรเริ่มให้เมื่ออายุมากกว่า 1 ปี ควรเริ่มให้กินไข่ เมื่ออายุมากกว่า 2 ปี และเริ่มให้ถั่วลิสงและปลา เมื่ออายุมากกว่า 3 ปี

มารดาขณะตั้งครรภ์ ควรหลีกเลี่ยงการกินถั่วลิสง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดอัลมอนด์

มารดาที่ให้นมบุตร ควรหลีกเลี่ยงการกินกุ้ง หอย ปู ถั่วลิสง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ เมล็ดอัลมอนด์


โปรแกรมหมอประจำบ้านอัจริยะ: ลมพิษ (Urticaria) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://doctorathome.com

7
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

เหนื่อย เฉื่อย ชา ล้าสมอง
แฮงก์ มึนตึบ ง่วงนอน

ต้อง เอ็มเมด ออน เลย
แค่ฉีกแล้วเทใส่ปาก ดูดซึมไว หายมึนตึบ

วิตามินที่เป็นผง ละลายในปาก ดูดซึมได้ดีกว่า วิตามินที่เป็นเม็ด
จะเล่นเกมส์หนัก ดูซีรี่ย์ดึก ทำงานกะดึก
ตื่นสายแค่ไหน ก็แค่ ฉีกซอง กรอกปาก แล้วดื่มน้ำตาม
สดชื่นทันที ขับขี่ปลอดภัย พร้อมทุกสถานการณ์
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน วิตามินผงละลายในปาก
ดูดซึมไว ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ทันที
ปลอดภัยกว่า ควบคุมโดยเภสัชมหิดล

ส่วนประกอบสำคัญ ใน เอ็มเมด ออน
L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.

ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน
ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกาย ด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
เลขที่ใบจดแจ้ง อย : 13-1-15859-5-1159
รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม)
เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยว ก่อนกลืน ดื่มน้ำตาม

สารกระตุ้น ที่ขายในท้องตลาด
ปลอดภัยกับร่างกายมากน้อยแค่ไหน!!!
ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่!!!
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเภสัชมหิดล
สำหรับคนนอนดึก เข้ากะดึก ง่วง หงาว หาว อยากนอน
แค่ ฉีก ซอง ใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตาม ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึก สดชื่น ได้ทันที
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์ https://mmed.com/promotions/




8
รู้จัก Doctor At Home
Doctor at Home คือแพลตฟอร์มที่เป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจอาการเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ ข้อมูลโรคที่รอบด้าน ทั้งอาการ สาเหตุ วิธีรักษา การป้องกัน ไปจนถึงการดูแลตนเอง อีกทั้งยังรวมข้อมูลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ซึ่งคัดสรรมาเพื่อผู้ใช้งานของเรา

Doctor at Home โปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
เป็นการตรวจอาการเบื้องต้นแบบ interactive ที่จะทำให้ผู้ใช้งานรู้ข้อมูลเบื้องต้นของโรคที่อาจจะเป็น รวมไปถึงวิธีปฏิบัติตัวเบื้องต้นก่อนไปพบแพทย์ โดยโปรแกรมนี้ได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 1” ของ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล มาจัดทำให้ใช้งานได้บนเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน LINE

ข้อมูลโรค พร้อมโปรแกรม “หมอประจำบ้าน” อัจฉริยะ ตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเอง
ผู้ใช้งานสามารถอ่านข้อมูลโรค อาการ สาเหตุ การป้องกันและการรักษา เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง โดยเราได้นำข้อมูลจาก “ตำราการตรวจรักษาโรคทั่วไป 2” โดย รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และข้อมูลโรคที่ รศ.นพ.สุรเกียรติ อาชานานุภาพ อดีตอาจารย์คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เขียนเพิ่มเติมมารวบรวมไว้ในเว็บไซต์ของเรา
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่หลังจากอ่านข้อมูลโรคแล้ว ท่านยังสามารถตรวจอาการเบื้องต้นด้วยตัวเองได้ ว่าท่านมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนั้น ๆ หรือไม่ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมตัวก่อนไปพบแพทย์
มีแล้วอุ่นใจ เจ็บป่วย ช่วยเหลือฉุกเฉิน แค่ Add LINE @DoctorAtHome ให้มาเป็น “หมอประจำบ้าน” คอยดูแลคุณอยู่ใกล้ๆ

ไลน์ ID  :  @DoctorAtHome
เว็บไซด์: https://doctorathome.com/




9
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากเสียงดัง
ในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานหรือสถานประกอบกิจการที่มีปัญหาด้านเสียงเกินค่ามาตรฐาน อาจสร้างผลกระทบทั้งด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงานต่อพนักงานในโรงงานเอง หรืออาจก่อให้เกิดมลพิษทางเสียงต่อชุมชนและสภาพแวดล้อมที่อยู่ด้านนอกโรงงาน หากเจ้าของแหล่งกำเนิดเสียงหรือผู้เกี่ยวข้องปล่อยปละละเลย ไม่จัดทำโครงการควบคุมเสียงหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวไม่สำเร็จ จะทำให้มีผลกระทบตามมา เช่น
•   เป็นผู้กระทำผิดกฎหมายด้านเสียง มีทั้งโทษปรับและจำคุก
•   ลูกจ้างอาจเกิดภาวะสูญเสียการได้ยินแบบชั่วคราวหรือแบบถาวร
•   ประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานลดลงจากเสียงเกินค่ามาตรฐาน
•   ถูกร้องเรียนจากชุมชนหรือผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่นอกโรงงาน
•   โรงงานหรือสถานประกอบกิจการอาจถูกสั่งปิดปรับปรุง จนกว่าจะแก้ไขแล้วเสร็จ

ทำไมต้องใช้บริการจาก
“NEWTECH INSULATION” ในการควบคุมเสียง?
ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี ในการควบคุมเสียงอุตสาหกรรม เรามีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรเฉพาะทางที่มีความรู้ด้านเสียงและความสั่นสะเทือน เครื่องมืออันทันสมัยที่ได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงประสบการณ์ด้านการแก้ไขปัญหาเสียงอุตสาหกรรมที่มีทั้งในและต่างประเทศ ผู้ใช้บริการจึงมั่นใจได้ว่าปัญหาด้านเสียงในโรงงานหรือสถานประกอบกิจการจะได้รับการแก้ไขได้อย่างตรงจุด ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยที่สุด เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในอุตสาหกรรม
– บริษัทฯ ขึ้นทะเบียนและได้รับใบอนุญาตเป็นนิติบุคคลผู้ให้บริการตรวจวัดและวิเคราะห์สภาวะการทำงานเกี่ยวกับระดับเสียง โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
– บุคลากรของบริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ควบคุมมลพิษเสียงและความสั่นสะเทือน จากสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
– มีทีมงานที่มากประสบการณ์และความรู้ ได้แก่ วิศวกร นักสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน ช่างเทคนิค รวมไปถึงช่างประกอบและติดตั้งระบบควบคุมเสียง
– มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานไว้ให้บริการทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
– มีสินค้าสำหรับควบคุมเสียงและความสั่นสะเทือนให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ผนังกันเสียง ห้องเก็บเสียง ม่านกันเสียง ตู้ครอบลดเสียง แจ็คเก็ตลดเสียง ไซเลนเซอร์ อคูสติคลูเวอร์ อุปกรณ์แยกความสั่นสะเทือน เป็นต้น
– มีการประเมินหรือทำตัวแบบจำลองระดับเสียง ก่อน-หลัง ปรับปรุงให้ลูกค้าใช้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการแก้ปัญหาด้านเสียง
– รับประกันระดับเสียงที่ลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
– รับประกันคุณภาพสินค้าและฝีมือการติดตั้งทุกงาน

บริษัท นิวเทค อินซูเลชั่น จำกัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมเสียงในโรงงานอุตสาหกรรม
จากประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาด้านเสียงมายาวนาน ไม่ว่าจะเป็นเสียงทางอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในการทำงาน และเสียงทางสิ่งแวดล้อม
ทางบริษัทฯ ยินดีให้คำแนะนำที่ทำได้จริงสำหรับการแก้ปัญหาด้านมลภาวะทางเสียงที่เกิดขึ้น เพื่อให้ทั้งโรงงาน พนักงาน หรือชุมชนโดยรอบอยู่ร่วมกันได้
“เพราะเรา…เข้าใจเรื่องเสียง”


สนใจสั่งซื้อ
เบอร์โทร:  02-583-8035 , 02-583-8034, 098-995-4650
E-mail: contact@newtechinsulation.com
Line ID: @newtechinsulation
Facebook: newtechthai
Instagram: newtechinsulation
เว็บไซด์: https://www.noisecontrol365.com/



10
คิว ดิสทริค ราชพฤกษ์ - รัตนาธิเบศร์ (Q District Ratchapruek - Rattanathibet)
Q District ราชพฤกษ์ - รัตนาธิเบศร์ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด และพรีเมียมทาวน์โฮม กับแนวคิดของโครงการ "DESIGN FOR ALL ASPECTS OF LIFE" ออกแบบ เพื่อทุกมิติของชีวิต เพื่อยกระดับการใช้ชีวิตให้สะดวกสบายมากขึ้น บ้านที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ และมีฟังก์ชันที่หลากหลาย

รายละเอียดโครงการ
 ชื่อโครงการ               คิว ดิสทริค ราชพฤกษ์ - รัตนาธิเบศร์ (Q District Ratchapruek - Rattanathibet)
 เจ้าของโครงการ          ควอลิตี้เฮ้าส์
 แบรนด์ย่อย                คิว ดิสทริค
 ราคา                       เริ่มต้น 2.99 ลบ. - 8 ลบ. (ณ. วันที่ 9 พ.ค. 67)
 ประเภทบ้าน               บ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม (Townhouse Townhome)
 ลักษณะทำเล             บ้านใกล้เมือง
 พื้นที่โครงการ             35 ไร่ 41 ตร.ว.
 จำนวนบ้าน                 โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 แบบบ้านทั้งหมด           โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
  เนื้อที่บ้าน                 โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 พื้นที่ใช้สอย                โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนชั้น                  โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 หน้ากว้าง                   โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนห้องนอน            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 จำนวนที่จอดรถ            โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ
 สาธารณูปโภค            สวนสาธารณะ, คลับเฮาส์, สระว่ายน้ำ, ฟิตเนส, รปภ., CCTV, อื่นๆ (Guest Lobby, LIBRARY ROOM), สนามเด็กเล่น, Co-working space

สถานที่ใกล้เคียง
 โซน               นนทบุรี, บางบัวทอง, บางใหญ่, ปากเกร็ด
 ที่ตั้ง               ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี 11110

 ขนส่งสาธารณะ
ใกล้รถไฟฟ้า, รถไฟฟ้าสายสีม่วง, สถานี(บางซื่อ - บางใหญ่)(บางรักใหญ่)
ใกล้ถนนสายหลัก (ถนนราชพฤกษ์, ถนนรัตนาธิเบศร์, ถนนบางกรวย-ไทรน้อย)

 สถานที่สำคัญใกล้เคียง

ศูนย์การค้า
ตลาดโชคพิชัย แยกบางพลู 3 กม.
เซ็นทรัล เวสต์เกต 6 กม.
ตลาดบางใหญ่ 7 กม.
เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ 7 กม.
โฮมโปร ชัยพฤกษ์ 7 กม.
โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ราชพฤกษ์ 8 กม.


สถานศึกษา
โรงเรียนอนุบาลมณียา 3 กม.
โรงเรียนอนุบาลเลิศวินิต 4.8 กม.
โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย 10.5 กม.
โรงเรียนสาร์สาสน์วิเทศราชพฤกษ์ 11 กม.


สถานพยาบาล
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล รัตนาธิเบศร์ 6 กม.
โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์ 7 กม.
โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 9 กม.
โรงพยาบาลนนทเวช 13 กม.

 ปีที่สร้างเสร็จ
โปรดสอบถามข้อมูลกับทางโครงการ


โครงการบ้านใหม่ 2024: คิว ดิสทริค ราชพฤกษ์ - รัตนาธิเบศร์ (Q District Ratchapruek - Rattanathibet) อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/house/news/

11
ออมสิน เปิดให้กู้โครงการ "สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม" ตั้งเป้าแก้หนี้ครัวเรือนตามนโยบายรัฐ ลดดอกเบี้ย 4 กลุ่มสินเชื่อ ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน 2567 เป็นต้นไป
 
ตามที่รัฐบาลมีนโยบายเร่งรัดการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐ และสอดรับกับบทบาทธนาคารเพื่อสังคม ธนาคารจึงพิจารณาออกมาตรการรีไฟแนนซ์ ภายใต้โครงการ “สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” รับรีไฟแนนซ์หนี้เดิม (ไม่ใช่การปล่อยสินเชื่อใหม่) เพื่อช่วยลดภาระแก่ลูกหนี้ 4 กลุ่ม ด้วยหลักเกณฑ์ดอกเบี้ยต่ำ พร้อมเงื่อนไขพิเศษอื่น ตั้งเป้าช่วยเหลือประชาชนลดภาระการชำระหนี้ ผ่อนสบายมากขึ้น หรือผู้ที่รีไฟแนนซ์แล้วแต่ประสงค์ผ่อนชำระเงินงวดเท่าเดิม ก็จะตัดเงินต้นมากขึ้นเพราะดอกเบี้ยลดลง ทำให้ปิดหนี้ได้เร็วขึ้น โดยมีรายละเอียดหลักเกณฑ์ทั้ง 4 มาตรการ ดังนี้
 

1. Re-Card : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิต

▪️ เพื่อไปชำระหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงิน หรือ Non-Bank อื่น โดยการรีไฟแนนซ์/รวมหนี้บัตรเครดิตมาผ่อนชำระกับธนาคารออมสินในรูปแบบเงินกู้ระยะยาว (Long Term Loan)
▪️ วงเงินกู้ไม่เกิน 5 เท่าของรายได้รวม สูงสุดไม่เกินรายละ 500,000 บาท
▪️ ไม่ต้องมีหลักประกัน
 

2. Re P-Loan : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan : P-Loan)

▪️ เพื่อไปชำระหนี้สินเชื่อส่วนบุคคล P-Loan ของสถาบันการเงิน หรือ Non-Bank อื่น
▪️ วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 100,000 บาท
▪️ ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 5 ปี
▪️ ไม่ต้องมีหลักประกัน
 

3. Re-Nano : รับรีไฟแนนซ์สำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย

▪️ เพื่อไปชำระหนี้สินเชื่อ Nano Finance ที่กู้ไปเพื่อลงทุนในการประกอบอาชีพ
▪️ วงเงินให้กู้ตามภาระหนี้คงเหลือของสัญญากู้เดิม สูงสุดไม่เกินรายละ 200,000 บาท
▪️ ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดไม่เกิน 8 ปี
▪️ ธนาคารออมสินร่วมกับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ในการค้ำประกันการกู้
 

4. Re-Home : รับรีไฟแนนซ์สำหรับลูกหนี้สินเชื่อที่อยู่อาศัย

▪️ เพื่อไถ่ถอนจำนองที่อยู่อาศัยจากสถาบันการเงินอื่น วงเงินกู้ 1-5 ล้านบาท
▪️ อัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 2.95% ต่อปี
▪️ เงื่อนไขพิเศษผ่อนต่ำ ปีที่ 1 ผ่อนชำระเงินงวดล้านละ 3,000 บาท/เดือน ปีที่ 2 ล้านละ 4,000 บาท/เดือน และปีที่ 3 ล้านละ 5,000 บาท/เดือน
 
ทั้งนี้ ธนาคารสนับสนุนนโยบายรัฐในการแก้ปัญหาหนี้สินครัวเรือนของประชาชน ให้สามารถมีเงินเหลือใช้สอยดำรงชีพโดยไม่ต้องพึ่งพาแหล่งเงินกู้นอกระบบ รวมถึงส่งเสริมการปลูกฝังทัศนคติการกู้เงินเท่าที่จำเป็นและผ่อนไหว โดยมาตรการสินเชื่อรีไฟแนนซ์ “โครงการสินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม” เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน เปิดให้ยื่นขอกู้ได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 และจัดทำนิติกรรมสัญญาภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2567



money expo: ออมสิน เปิดให้กู้โครงการ "สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม" ตั้งเป้าแก้หนี้ครัวเรือนลดดอกเบี้ย 4 กลุ่มสินเชื่อ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.checkraka.com/moneyexpo/

12
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” ตราเอ็มเมด แพ็ค 7 ซอง/กล่อง

เหนื่อย เฉื่อย ชา ล้าสมอง
แฮงก์ มึนตึบ ง่วงนอน

ต้อง เอ็มเมด ออน เลย
แค่ฉีกแล้วเทใส่ปาก ดูดซึมไว หายมึนตึบ

วิตามินที่เป็นผง ละลายในปาก ดูดซึมได้ดีกว่า วิตามินที่เป็นเม็ด
จะเล่นเกมส์หนัก ดูซีรี่ย์ดึก ทำงานกะดึก
ตื่นสายแค่ไหน ก็แค่ ฉีกซอง กรอกปาก แล้วดื่มน้ำตาม
สดชื่นทันที ขับขี่ปลอดภัย พร้อมทุกสถานการณ์
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน วิตามินผงละลายในปาก
ดูดซึมไว ช่วยให้ร่างกายสดชื่นได้ทันที
ปลอดภัยกว่า ควบคุมโดยเภสัชมหิดล

ส่วนประกอบสำคัญ ใน เอ็มเมด ออน
L-Glutamine (100%) 200 mg.
Coenzyme Q10 (10%) 50 mg.
Goji berry extract 50 mg.
Zinc amino acid chelate (20%) 50 mg.
L-Glutathione (100%) 50 mg.
Blueberry juice powder 50 mg.
Taurine (100%) 20 mg.
Niacinamide (B3) (100%) 20 mg.
Thiamine hydrochloride (B1) 1 mg.

ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน
ผลิตภัณฑ์เพื่อกระตุ้นความตื่นตัวให้กับร่างกาย ด้วยการสารสกัด Goji berry ที่มีวิตามิน C สูง และเสริมสร้างพละกำลังให้ร่างกายด้วย Taurine, Q10, L-Gluamine รวมทั้งวิตามิน B1, B3 และ Zinc ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า
แถมท้ายด้วย Blueberry juice ที่ช่วยบำรุงสมองควบคู่ไปด้วย
เลขที่ใบจดแจ้ง อย : 13-1-15859-5-1159
รับประทานวันละ 1 ซอง (3 กรัม)
เทผลิตภัณฑ์กรอกใส่ปาก เคี้ยว ก่อนกลืน ดื่มน้ำตาม

สารกระตุ้น ที่ขายในท้องตลาด
ปลอดภัยกับร่างกายมากน้อยแค่ไหน!!!
ส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่!!!
ผลิตภัณฑ์ เอ็มเมด ออน ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า โดยเภสัชมหิดล
สำหรับคนนอนดึก เข้ากะดึก ง่วง หงาว หาว อยากนอน
แค่ ฉีก ซอง ใส่ปาก แล้วดื่มน้ำตาม ก็ช่วยให้ร่างกายรู้สึก สดชื่น ได้ทันที
ราคาโปรโมชั่นเพียง
1 กล่อง      315    บาท
2 กล่อง      599    บาท
3 กล่อง      859     บาท

สนใจสั่งซื้อ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “ออน” (ตราเอ็มเมด)

โทร: 064-662-4421
ไลน์ OA  : https://page.line.me/565blcje?openQrModal=true
Page FB : https://web.facebook.com/MMEDBrand/?_rdc=1&_rdr
เว็บไซด์ https://mmed.com/promotions/


13
หากพูดถึงงานเลี้ยงสังสรรค์แล้ว หลายคนจะต้องนึกถึงเครื่องดื่มสุดแสนอร่อย ยิ่งถ้าเป็นงานปาร์ตี้และมีการจัดเลี้ยงในรูปแบบของงานเลี้ยงค็อกเทลแล้วด้วย ต้องนึกถึงเมนูค็อกเทลยอดฮิตอย่าง Margarita แน่นอน ซึ่งเป็นค็อกเทลที่ได้รับความนิยมมาก และยังมีรสชาติที่นุ่ม กลมกล่อม และยังมีเอกลักษณ์คือการตกแต่งปากแก้วด้วยขอบเกลือ ทำให้เมนู  Margarita มีรสชาติที่เปรี้ยวๆหวาน ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมาก  ถือได้ว่า เป็นส่วนผสมที่ลงตัวเลยทีเดียว สำหรับการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลนั้น ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการจัดเลี้ยงในรูปแบบหนึ่งที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นการจัดเลี้ยงที่ได้รับความนิยมมาก

โดยเฉพาะงานเลี้ยงแสดงความยินดีในโอกาสต่างๆ รวมไปถึงการจัดปาร์ตี้สังสรรค์ ซึ่งจะมีการจัดทั้งในอาคารและพื้นที่กลางแจ้ง รวมไปถึงริมสระน้ำ โดยจะมีลักษณะเป็นงานที่ไม่เป็นพิธีการมากนัก เหมาะสำหรับวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ และมีบรรยากาศงานที่มีความสนุกสนาน เป็นกันเอง แขกภายในงานสามารถเดินพูดคุย พร้อมกับการรับประทานอาหารไปด้วยได้ โดยไม่ต้องกังวลในเรื่องของโต๊ะหรือเก้าอี้ที่ใช้รับรองแขกภายในงานเลย เพราะงานจัดเลี้ยงแบบค็อกเทลส่วนใหญ่ แขกภายในงานจะยืนหรือเดินไปพบปะพูดคุยกับแขกท่านอื่นๆจะทำให้ลดปัญหาในเรื่องของพื้นที่การนั่งรับประทานอาหารได้นั่นเอง และสำหรับในเรื่องของเวลาในการจัดเลี้ยงนั้น ส่วนใหญ่จะนิยมจัดในระหว่าง 5 โมงเย็น และ 3 ทุ่ม อาหารภายในงานก็จะเป็นอาหารที่ลักษณะพอดีคำ สามารถใช้มือหยิบจับได้สะดวก โดยไม่ต้องใช้ส้อมหรือช้อน และอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ควรจิ้มด้วยไม้จิ้มฟัน เพื่อให้แขกจับได้สะดวก และที่สำคัญมากที่สุดก็คือ เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ ควรมีอย่างน้อย 3 อย่าง เพื่อให้แขกได้เลือกดื่มอย่างหลากหลาย เพื่อเพิ่มสีสันให้กับงานเลี้ยงของคุณได้อีกด้วย

สำหรับวันนี้ทางเราจะมาแนะนำเมนูเครื่องดื่มยอดฮิตที่ควรจะมีในงานเลี้ยงแบบค็อกเทล ที่เรียกว่า ขาดไม่ได้เลยทีเดียวนั่นก็คือ Margarita เครื่องดื่มที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร มีรสชาติกลมกล่อม เพิ่มสีสันให้ไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว สำหรับเมนู Margarita นี้ ก็มีด้วยกันหลายสีสัน อยู่ที่ว่าจะเลือกส่วนผสมอะไรเข้ามาเป็นส่วนผสมหลักเพื่อเพิ่มรสชาติให้อร่อยเพิ่มมากขึ้น

สำหรับสูตรการทำเครื่องดื่ม  Margarita นั้น ก็ง่ายมาก เพียงแค่มีส่วนผสมและอุปกรณ์ โดยมี ตากีล่า น้ำมะนาว ทริเปิล เซค น้ำเชื่อม เกลือ มะนาวหั่นบาง และสำคัญทีสุดคือ น้ำแข็ง และวิธีการทำก็ง่ายมากเพียงแค่ นำส่วนผสมที่เตรียมไว้ใส่ลงไปในกระบอกเชก พร้อมกับน้ำแข็งในปริมาณที่พอเหมาะ แล้วเชกให้ส่วนผสมเข้ากันประมาณ 10 วินาที จากนั้นค่อยๆ รินส่วนที่เป็นน้ำอย่างเดียวลงไปในแก้วค็อกเทล จากนั้นตกแต่งด้วยมะนาวที่หั่นไว้ให้สวยงาม ก่อนดื่มให้ทาเกลือลงไปบริเวณปากแก้ว แล้วนำชิ้นมะนาวทาวนลงบนเกลืออีกที  เพียงเท่านี้เราก็จะได้รสชาติเครื่องดื่มมาตรฐานของ Margarita อย่างลงตัว ต้องบอกเลยว่า เมนูเครื่องดื่มค็อกเทลดังกล่าวนั้น สามารถทำได้ง่ายๆ  และยังเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากอีกด้วย เรียกว่า สายปาร์ตี้ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว
 

นอกจากเครื่องดื่มภายในงานเลี้ยงแบบค็อกเทลแล้ว ในเรื่องของอาหารภายในงานก็มีความสำคัญมากเช่นเดียวกัน  เราควรที่จะ เพิ่มซุ้มอาหารให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ก็จะยิ่งเพิ่มความประทับใจให้กับแขกภายในงานได้ ทำให้งานเลี้ยงไม่น่าเบื่อ และสามารถดื่มด่ำกับเครื่องดื่มและอาหารได้อย่างไม่สะดุด เพราะฉะนั้น ควรเลือกอาหารค็อกเทลให้มีความหลากหลาย เพราะแขกของเราก็อาจจะมีความชอบที่หลากหลาย


ดังนั้น จึงไม่ควรลืมเลือกอาหารที่มีความหลากหลายเพื่อให้รสชาติโดยรวมอร่อยขึ้น เช่น ควรมีเมนู หมู ไก่ เนื้อ ปลา ให้แขกได้เลือก หรือเมนูผักเยอะกับเมนูเนื้อเน้นๆ และที่สำคัญอาหารจะต้องเข้ากับเครื่องดื่มที่เราใช้รับรองแขกภายในงานให้เข้ากันอย่างลงตัวโดยไม่น่าเบื่อ อย่างไรก็ตาม ทางเรามีบริการในด้านการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการจะจัดงานเลี้ยง ทางเรามีความเชี่ยวชาญในด้านการจัดเลี้ยง การันตีด้วยประสบการณ์ในการจัดศูนย์อาหารภายในโรงพยาบาล โรงงานต่างๆ และยังมีบริการในส่วนของพนักงานเสิร์ฟ ที่มีความเป็นมืออาชีพ พร้อมให้คุณได้จัดงานเลี้ยงได้อย่างสมบูรณ์แบบ




การจัดเลี้ยงนอกสถานที่ Margarita ค็อกเทลที่สายปาร์ตี้ไม่ควรพลาด อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

14
การจัดงานเลี้ยงต่างๆนั้น รูปแบบอาหารอาจจะแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ตามสถานที่ หรือตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า โดยรูปแบบอาหารส่วนใหญ่ที่มักจะได้พบเป็นประจำ ก็จะมีตัวอย่างเช่นรูปแบบของอาหารชุด หรือที่เรียกกันติดปากว่า “โต๊ะจีน” ที่ทะยอยยกเสิร์ฟกันออกมาตามเวลา และมีข้าวผัดปิดท้าย


งานเลี้ยงในรูปแบบที่เรียบง่าย อาจจะจัดสรรอาหารกันในรูปแบบของข้าวกล่อง เพื่อสะดวกในการขนย้าย การรับประทาน และการเก็บกวาดทำความสะอาด หากเป็นงานเลี้ยงในบางบริษัท อาจจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ เพื่อความสะดวกสบายของพนักงานบริษัทและผู้ที่ใช้บริการส่วนใหญ่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด งานเลี้ยงทุกงานจะสมบูรณ์แบบไม่ได้ หากไม่มีอาหารที่เป็นสีสันที่สำคัญของงาน

ในวันนี้ ก็มีตัวอย่างอาหารไทยน่ารับประทาน ที่สามารถจะนำไปใช้เป็นไอเดียในการจัดเลี้ยงในงานต่างๆมาฝากทุกท่านกันค่ะ

เมนูแรก “ปลาอินทรีย์ทอด และ ยำมะม่วง”

วัตถุดิบและเครื่องปรุง

1.ปลาอินทรีย์ 2 ชิ้น
2.มะม่วงเปรี้ยวสับเป็นเส้น 1 ผล
3.หอมแดงซอย 1/3  ถ้วยตวง
4.พริกขี้หนูซอย  1  ช้อนโต๊ะ
5.น้ำตาลปิ๊บ  3  ช้อนโต๊ะ
6.น้ำปลา  2  ช้อนโต๊ะ
7.ผักชี (ตามชอบ)
8.น้ำเปล่า  ¼ ถ้วยตวง
9.เกลือป่น ¼  ช้อนชา
10.น้ำมันสำหรับทอด


วิธีทำ

1.ทาเกลือป่นบนเนื้อปลาให้ทั่วแล้วนำลงทอดในน้ำมันร้อนจนสุกเหลืองทั้งสองด้าน นำขึ้นสะเด็ดน้ำมันแล้วจัดใส่จานรอไว้

2.วางมะม่วงสับลงข้างๆชิ้นปลาทอด ตามด้วยหอมแดงซอย พริกขี้หนูซอย และผักชี

3.ผสมน้ำตาลปิ๊บกับน้ำเปล่าและน้ำปลา เพื่อทำน้ำยำ ขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ เคี่ยวให้เดือด พอข้นๆเหนียวๆ เล็กน้อย หากจะรับประทาน ก็ให้นำน้ำยำราดบนมะม่วงสับ คลุกเคล้า และทานคู่กับปลาอินทรีย์ทอด

และในบทความหน้า เราก็จะนำเมนูแนะนำอร่อยๆและน่ารับประทานสำหรับงานเลี้ยงต่างๆนั้น มาฝากทุกท่านกันนะคะ



อาหารที่ใช้ในการจัดงานเลี้ยง จัดเลี้ยงนอกสถานที่ ต่างๆ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://thetastefood.com/

15
สุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรมองข้าม เพราะฟันของเด็กนั้น ส่งผลต่อการขึ้นของฟันแท้ หากฟันมีปัญหาตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนม อาจจะส่งผลให้การขึ้นของฟันแท้มีปัญหาได้ ดังนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองควรพาบุตรหลานของท่านไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะได้ทราบถึงการเปลี่ยนแปลง และจะได้แก้ไขได้ทันเวลา ในวัยเด็กนั้น เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า เด็กในวัยนี้มักจะชอบรับประทานของหวาน เช่น ลูกอม ช็อกโกแลต หรือขนมหวานที่มีส่วนผสมของน้ำตาลจำนวนมาก


ซึ่งในอีกแง่หนึ่งก็คือของหวานเหล่านี้ เป็นสาเหตุของการเกิดฟันผุ และปัญหาฟันอื่นๆตามมา ในเรื่องของพฤติกรรมหรือของที่เด็กชื่นชอบ พ่อแม่ควรจัดให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับลูกน้อย หรืออาจจะใช้ของว่างอื่นๆทดแทนขนมหวาน ซึ่งนอกจากจะดีต่อสุขภาพช่องปากและฟันแล้ว ยังดีต่อสุขภาพของลูกๆอีกด้วย สำหรับวันนี้ทาง คลินิกเราจะมาแนะนำอาหารว่างที่ดีต่อสุขภาพฟันของเด็กๆ เพื่อเป็นแนวทางให้พ่อแม่ผู้ปกครองได้ปรับเปลี่ยนเมนูอาหารว่างให้เด็กๆ ได้


สำหรับอาหารของเด็กๆในวัยนี้ ควรที่จะมีส่วนในการช่วยป้องกันการเกิดโรคฟันผุได้เป็นอย่างดี เศษอาหารที่ตกค้างอยู่บนรูและร่องฟันในด้านบดเคี้ยว หรือตามซอกฟันที่จะมีผลให้เกิดโรคฟันผุได้ ได้แก่ อาหารประเภทแป้งและน้ำตาล โดยเฉพาะอาหารที่มีความหนืดหรือเหนียว และสามารถติดฟันได้นาน ๆ เป็นการให้โอกาสแก่เชื้อจุลินทรีย์ในปาก ใช้อาหารเหล่านี้ในการเจริญเติบโต และสร้างเป็นกรดทำลายฟัน นอกจากนี้ร่างกายของเด็กมีความต้องการอาหารประเภท โปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ และอาหาร ประเภทแร่ธาตุ เช่น ผัก ผลไม้ เพื่อใช้ในการเสริมสร้างความเจริญของร่างกายเป็นพิเศษ โดยอาหารประเภทนี้ แม้บางชนิดจะมีความเหนียว เช่น เนื้อ ผักบางชนิด แต่อาหารเหล่านี้ เชื้อจุลินทรีย์ในปากไม่สามารถใช้ในการเจริญและสร้างกรดให้เกิดโรคฟันผุได้


สำหรับอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน ได้แก่ นม เพราะอุดมไปด้วยแคลเซียมและฟอสฟอรัส ไม่ใช่แค่ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง แต่ยังช่วยป้องกันเคลือบฟัน ทำหน้าที่ผลิตแร่ธาตุที่ดีต่อสุขภาพฟันมาทดแทนส่วนที่ถูกแบคทีเรียทำลายไปอีกด้วย ต่อมาคือ ชีส นอกจากจะมีแคลเซียมสูงแล้ว แบคทีเรียบางชนิดอย่างโปรไบโอติคที่อยู่ในชีสยังช่วยยับยั้งแบคทีเรียป้องกันฟันผุ นอกจากนี้ ปลา ที่ประกอบด้วยโอเมก้า-3 ในน้ำมันปลา จะสามารถช่วยลดความเสี่ยงโรคปริทันต์ หรือรำมะนาดได้ ยิ่งกว่านั้นปลาทะเลเขตหนาวอย่างปลาทูน่าและแซลมอนยังเป็นแหล่งของวิตามินดี และไขมันที่ดีต่อร่างกาย

 
สำหรับผลไม้ ที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถนำไปให้ลูกน้อยรับประทานเพื่อเป็นเมนูอาหารว่าง ทางคลินิกของแนะนำก็คือ แอปเปิ้ล เพราะแอปเปิ้ล มีฉายาว่า ยาสีฟันธรรมชาติ ช่วยลดการสร้างแบคทีเรียที่ทำให้เกิดฟันผุ การเคี้ยวแอปเปิ้ลยังช่วยลดความเป็นกรดในช่องปาก และช่วยขจัดสิ่งสกปรก และเศษอาหารที่ตกค้างได้อย่างดี หรือจะเลือกรับประทาน แครนเบอร์รี่ เพราะในแครนเบอร์รี่มีสารที่ช่วยลดแบคทีเรียที่เกาะอยู่ที่ฟัน และสารที่เกิดจากจุลินทรีย์ที่เคลือบร่องฟันและโคนฟัน ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคฟันผุและโรคเกี่ยวกับเหงือก หรือจะเลือกธัญพืชอย่างลูกเกด ให้เป็นอาหารว่างสำหรับเด็กๆ ถึงแม้ว่าจะมีรสหวาน แต่ในลูกเกดมีสารบางอย่างที่ช่วยป้องกันแบคทีเรียในช่องปากที่เป็นสาเหตุของฟันผุ และโรคเกี่ยวกับเหงือก


นอกจากนี้ลูกเกดยังไม่มีน้ำตาลซูโครสที่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเป็นสาเหตุหลักของโรคในช่องปากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางคลินิกเราอยากให้ทุกคนหันมาดูแลรักษาสุขภาพช่องปากและฟัน รวมไปถึงสุขภาพช่องปากและฟันของเด็ก ที่พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรที่จะมองข้าม ทางคลินิกเรามีบริการทางด้านทันตกรรมอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการเข้ามารับบริการของทุกคน เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนมีสุขภาพช่องปากและฟันที่ดี




จัดฟันบางนา: อาหารว่าง ที่ดีต่อสุขภาพช่องปากของเด็กๆ อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://www.idolsmiledental.com/category/จัดฟันบางนา/

หน้า: [1] 2 3 ... 24
Tage : ประกาศขายของฟรี ติด google , ลงประกาศฟรีไม่ต้องสมัคร , ประกาศฟรีไม่มี หมดอายุ , เว็บประกาศฟรีติดอันดับ , ลงประกาศฟรีใหม่ ๆ , ฝากร้านฟรีโพสฟรี , รวมเว็บลงประกาศฟรี , ลงประกาศฟรี 100 , รวมเว็บลงประกาศฟรี ติด google , ลงประกาศฟรี ติดอันดับ google , ลงประกาศฟรีออนไลน์ , เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ , ลงประกาศฟรี pantip , ลงประกาศฟรี , โพสฟรี โปรโมทฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โพสประกาศฟรี ลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี โฆษณาสินค้าฟรี , เว็บลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี Post ฟรี ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google ลงประกาศฟรี เว็บบอร์ด เว็บลงประกาศขายฟรี โพสประกาศฟรี ติด google ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายรถฟรี โพสฟรี โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ฟรี ลงโฆษณาฟรี google ลงประกาศสินค้าฟรี ลงโฆษณาฟรี เว็บลงประกาศขายฟรี ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซต์ฟรี ติด google ฝากร้านฟรี ฝากขายฟรี ลงประกาศสินค้าฟรี ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google